ลิงค์ผู้สนับสนุน
1. ขนาดของเคสคอมพิวเตอร์ สำหรับผู้ใช้งานธรรมดานั้น ขนาดของเคสจะไม่ใหญ่มากนักเนื่องจากอุปกรณ์ภายในจะมีน้อย และไม่ค่อยได้ปรับแต่งอะไรมาก สำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์หนักๆ เช่น มีฮาร์ดดิสหลายลูก มีการ์ดจอสเปคสูงๆ มีการทำระบบระบายความร้อนมากๆ การใช้งานพวกนี้ต้องใช้งานเคสคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ครับ
2. พาวเวอร์ซัพพายที่ติดมากับเคส คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีพาวเวอร์ซัพพายสำหรับการใช้งานติดมาให้ด้วยเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน สำหรับผู้ใช้งานธรรมดาทั่วไปพาวเวอร์ซัพพายที่ติดมากับเคสคอมพิวเตอร์นั้นสามารถใช้งานได้ครับ แต่หากมีการเพิ่มอุปกรณ์ในเครื่องเช่นเพิ่มการ์ดจอหรือฮาร์ดดิสหลายลูก ก็ควรจะต้องเปลี่ยนพาวเวอร์ซัพพายให้มีกำลังไฟฟ้าที่มากขึ้นครับ
3. การระบายอากาศภายในเคสคอมพิวเตอร์ เคสคอมพิวเตอร์ที่ดีนั้นต้องมีการระบายอากาศที่ดีครับ เผื่อไม่ทำให้อุปกรณ์ภายในร้อนและทำให้อายุการใช้งานคอมพิวเตอร์น้อยลง ส่วนใหญ่คสคอมพิวเตอร์ที่มีการระบายอากาศที่ดีจะมีพัดลมด้านหน้าและด้านข้างสำหรับดูดอากาศจากภายนอกเข้ามา และมีพัดลมด้านหลังหรือด้านบนสำหรับการระบายอากาศให้ออกไปครับ
4. ความทนทานของเคส วัสดุสำหรับใช้ทำเคสนั้นจะดูว่ามีความทนทานหรือไม่นั้นให้เราสังเกตุความหนาของเคสครับ ส่วนใหญ่หลายคนอาจจะคิดว่าเวลาตั้งเคสก็ไม่ค่อยได้ย้ายไปไหนอยู่แล้วเลยไม่ได้สนใจ แต่เคสบางชนิดถึงแม้จะสวยงามแต่เวลาถูกกระแทกหรือถูกดันมากๆก็มีอาการโค้งงอทำให้เสียรูปทรงได้ครับ
5. อุปกรณ์เสริมเคสคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันมีความสามารถและมีการตกแต่งให้สวยงามอย่างมากมาครับเช่น มีช่องหูฟัง ช่องไมค์โคโฟน ช่องเสียบยูเอสบี ช่องใส่ฮาร์ดดิสและซีดีรอมแบบไม่ต้องขันน็อต พัดลมระบายอากาศแบบมีสี เป็นต้น
ลิงก์ผู้สนับสนุน